เมื่อในชีวิตต้องพบเจอ คน “คิดลบ” ควรทำอย่างไร 

เมื่อในชีวิตต้องพบเจอ คน “คิดลบ” ควรทำอย่างไร 

เมื่อในชีวิตต้องพบเจอ คน “คิดลบ” ควรทำอย่างไร 

เมื่อในชีวิตต้องพบเจอ คน “คิดลบ” ควรทำอย่างไร หลายคนต่างมีหลากหลายความคิดแตกต่างกัน แต่ความคิดของแต่ละคนนั้นสามารถกำหนดตนเองได้ ว่าคุณจะคิดดี หรือคิดไม่ดี แต่คุณไม่สามารถกำหนดความคิดของคนอื่นได้ หรือล่วงรู้ความคิดจริงๆของเขาเหล่านั้นได้ ว่าแท้ที่จริงแล้วเขามีความคิดที่ดีแค่ไหน หรือมีความคิดที่ติดลบแค่ไหน เพราะฉะนั้นหากในการใช้ชีวิตของคุณ แล้วคุณต้องพบเจอกับคนที่มีทัศนคติ หรือความคิดในแง่ลบ ก็ควรที่จะดึงสติและพิจารณาสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ เพื่อที่จะไม่ทำให้คุณนั้นตกเป็นพวกเดียวกันกับคนเหล่านั้น ดึงตัวเองออกจากทัศนคติแย่ๆ พร้อมวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งในการใช้ชีวิตเมื่อต้องพบเจอคนที่มีทัศนคติแย่ๆ มีดังต่อไปนี้ 

  1. อย่าไปเป็นพวกเดียวกันกับเขา สำหรับคนที่มีทัศนคติแย่ หรือทัศนคติติดลบ พวกเขาจะมีความรู้สึกไม่ชอบใจ รู้สึกไม่ดีกับสิ่งต่างๆรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการบ่นในเรื่องต่างๆ จะไม่เคยมีเรื่องที่ดีอยู่ในความรู้สึกของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นการบ่นเรื่องการทำงาน การวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น การติเตียนผู้อื่น นั่นแสดงให้เห็นถึงว่าเขามีมุมมองที่ไม่ดี เขามีมุมมองที่แคบ ทำให้มองไม่เห็นสิ่งดีๆของคนๆนั้น แต่เขากลับมองเห็นสิ่งที่แย่ หรือสิ่งที่เลวร้ายของคนๆนั้นแม้ว่าเรื่องเหล่านั้นมันจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม แต่เขาก็จะมองเห็นมากกว่าสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น ซึ่งถ้าหากคุณพบเจอกับคนประเภทนี้ คุณควรที่จะออกให้ห่าง และอย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงสนทนา เพราะคุณจะกลายเป็นคนประเภทเดียวกันกับเขา 
  2. พยายามรักษาระยะห่าง ในเมื่อคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่ร่วมกันกับคนที่ มีทัศนคติแย่ หรือทัศนคติที่ติดลบ ในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขก็คือคุณควรที่จะ รักษาระยะห่างระหว่างคุณและเขาคนนั้นเอาไว้ หากมีการช่วยเหลือการ ก็จะถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากถึงเวลาจำเป็นที่จะต้องร่วมงานด้วยกัน ก็ควรที่จะทำใจและใช้ทัศนคติที่ดีของเราเพื่อที่จะทำให้การทำงานนั้น เป็นไปอย่างราบรื่นและประสบผลสำเร็จ เมื่อมีโอกาสร่วมงานกันและจะต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากคุณลองเปิดใจและให้ความช่วยเหลือเขาด้วยความจริงใจ เพื่อนที่มีทัศนคติลบ จะสัมผัสได้ถึงความหวังดีและสิ่งดีๆที่คุณช่วยเหลือเขา ก็จะทำให้การทำงานร่วมกันนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น และดีมากยิ่งขึ้น 
  3. ยึดมั่นในทัศนคติที่ดีของเรา เมื่อเรามีพลังงานบวก คิดดี คิดบวก ก็ควรที่จะยึดมั่นและปฏิบัติเอาไว้เพราะมันเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเรา และสิ่งที่ดีกับคนรอบข้าง ซึ่งเราสามารถที่จะส่งพลังงานบวกนี้ไปให้กับเพื่อนร่วมงานข้างๆของเราได้ ถึงแม้ว่าคนข้างๆนั้นจะมีทัศนคติติดลบมากแค่ไหน หากคุณพยายามส่งพลังงานบวกซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของ คำพูดดีๆ กำลังใจดีๆ มีการแนะนำแนวทางดีๆ โดยที่ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าคุณกำลังสอนเขาอยู่ ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถเข้าถึง จิตใจ ความรู้สึก ของเพื่อนร่วมงานประเภทนี้ได้มากยิ่งขึ้น และจะช่วยทำให้เขาเปิดใจยอมรับพลังงานบวก จากคุณเข้าไปปรับทัศนคติที่แย่ๆของเขา ให้กลับมามีสภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งดีๆที่เพื่อนร่วมงาน และคนร่วมโลกสามารถช่วยกันได้ในส่วนนี้ 
  4. ไม่ต้องนำเอาทัศนคติแย่ๆของคนรู้จัก มาพูดถึงหรือทำให้มันเป็นเรื่องราวที่รับรู้ในวงกว้าง แน่นอนว่าเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของใครได้ง่ายๆ แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาความคิดแย่ๆของเขาเหล่านั้น มาพูดถึงในลักษณะที่ไม่เห็นด้วย เพราะต่างคนต่างความคิด คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า ชีวิตของเขาเหล่านั้นอาจจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ที่มันอาจจะเป็นเรื่องราวที่เลวร้าย ซ้ำซ้ำ เป็นระยะเวลายาวนาน จนอาจทำให้เขากลายเป็นคนที่ มีความคิดและทัศนคติในแง่ลบ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง จากสิ่งที่ไม่ดีที่เขาอาจจะถูกดึงเข้าไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว มันก็เหมือนโปรแกรมการปกป้องหรือป้องกันตัวเอง สำหรับคนที่เจอเรื่องราวที่เลวร้ายมาก็ได้ เพราะฉะนั้นคุณไม่ควรที่จะเอาสิ่งไม่ดีของเขา ไปพูดต่อหรือนินทา แสดงความไม่พอใจในสิ่งที่เขาเป็น เพราะนั่นก็เหมือนกับว่าคุณกำลังเป็นคนที่มีทัศนคติแย่ๆเสียเอง 
  5. เลิกสนใจ และหันมาทำในสิ่งที่ดีกว่า ในการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก มักจะมีความคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราจะได้เห็นทัศนคติของแต่ละคนว่า เขาคนนี้มีลักษณะความคิดเป็นเช่นไร และมีวิธีการปฏิบัติเช่นไร หากคุณพิจารณาดูแล้วว่า เพื่อนร่วมงานของคุณคนใดที่มีทัศนคติติดลบ สิ่งที่คุณควรทำก็คืออย่าไปให้ความสนใจเขามากเกินไป ไม่ควรเอาความไม่ดีของเขามาทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด รำคาญ รู้สึกแย่ เพราะนั่นมันทำให้กินเวลาความสุข และพลังงานบวกของคุณไปเรื่อยๆ มันจะทำให้เรารู้สึกแย่ไปทั้งวัน รู้สึกไม่ดีตามคนที่มีทัศนคติติดลบ เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็คือไม่ควรให้ความใส่ใจกับเขา และเมื่อเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี ก็ควรที่จะหาสิ่งอื่นทำ เพื่อที่จะทำให้พลังงานบวกของคุณนั้นยังคงอยู่ และเป็นประโยชน์กับคนรอบข้างต่อไปจะดีกว่า 

วิธีทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเองได้ และสามารถพัฒนาตนเองเพื่อก้าวต่อไปให้สูงขึ้น

แค่ “ปรับเปลี่ยนความคิด” ก็จะทำให้ใช้ชีวิตได้มีความสุขมากขึ้น หากคุณมีความรู้สึกว่า คุณต้องการที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อที่จะทำให้ชีวิตก้าวต่อไปข้างหน้าได้ สิ่งที่คุณควรจะมีก็คือ การเปลี่ยนแปลงความคิดของตนเองซึ่งเป็นจุดหลัก ซึ่งวันนี้เราได้นำเอาวิธีการพัฒนาตัวเองมาแนะนำกัน 

  1. กล้าลองในสิ่งใหม่ๆ คุณไม่ต้องกลัวว่าการเริ่มต้นใหม่ วิธีการทำในสิ่งใหม่ๆจะเป็นอะไรที่แย่เสมอไป เพราะบางครั้งในการทำสิ่งใหม่ อาจจะทำให้คุณได้พบกับความชอบ แล้วความเป็นตัวตนของตัวคุณเอง ในแบบที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าพูดว่าไม่ชอบในขณะที่คุณยังไม่ได้ลอง 
  2. ความกลัวเรื่องเล็กๆ คุณต้องมองว่าความกลัวเป็นเรื่องที่เล็กมากๆ คุณจะต้องก้าวผ่านความกลัวที่เกิดขึ้นกับตัวเองไปได้ เพราะถ้าหากคุณไม่กล้าที่จะก้าวผ่านความกลัวที่คุณมีอยู่ คุณก็จะไม่พบเจอกับชีวิตที่ดี สิ่งใหม่ๆ เหลือการเดินออกจาก Comfort Zone ที่คุณยืนอยู่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์ หรือเรื่องราวอะไรที่คุณไม่เคยพบเจอมาก่อน ก็ให้มองว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทาย อย่าให้มันคือความกลัวที่สุดล้างคุณเอาไว้
  3. พยายามเปิดใจ คือสิ่งที่หลายคนรู้แต่อาจจะทำไม่ได้ ซึ่งการเปิดใจยอมรับสิ่งต่างๆรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นความคิด ทัศนคติ หรือเรื่องอะไรใดก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นรอบตัว โดยที่ไม่ใช่เป็นตัวของคุณมาตั้งแต่แรก มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับใครบางคน แต่ถ้าหากคุณลองเปิดใจรับสิ่งเหล่านี้ รับรองได้เลยว่าคุณจะได้พบเจอกับความคิดใหม่ๆ ความรู้สึกใหม่ เพื่อนใหม่ ประสบการณ์ใหม่ ที่จะทำให้คุณนั้นได้ทำในสิ่งที่แปลก และแตกต่างไปจากเดิม อย่างแน่นอน 
  4. พยายามมองคนที่มีลักษณะที่แตกต่างจากเรา เพราะคนที่แตกต่างจากเรานั้นจะมีความคิด มีพฤติกรรม มีประสบการณ์ และเรื่องเล่าต่างๆที่แตกต่างจากเรา เพราะเขาต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันกับเรา เขาได้ทำในสิ่งที่เขาสนใจ แต่เราไม่สนใจ เพราะถ้าหากเราไปลองทำความรู้จักกับเขาเราจะได้พบเจอกับสิ่งที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและจะทำให้เรานั้นเป็นอีกหนึ่งคน ที่มีประสบการณ์และความรู้ที่เพิ่มมากขึ้น 
  5. พยายามอย่าคาดหวัง การคาดหวังแน่นอนว่าเป็นดาบสองคม มันสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้คุณทำในสิ่งที่คุณต้องการได้ในระยะเวลาอันสั้น ในทางกลับกันมันก็สามารถทำให้คุณรู้สึกแย่มากๆได้ในกรณีที่คุณไม่สามารถทำได้ อย่างที่คุณหวังเอาไว้ เพราะฉะนั้นให้ทำตัวสบายๆไม่คาดหวังสูงมากจนเกินไป เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาหากไม่เป็นไปตามความคิดของเรา อาจจะทำให้เราเจ็บปวดได้ในภายหลัง แต่สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ในสิ่งที่เรา แต่เราก็ยังคงได้ประสบการณ์ที่เกิดจากการลงมือทำของเราเอง 

การพบเจอกับคนที่มีทัศนคติแย่ เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเพราะฉะนั้น คุณต้องปล่อยวางและพยายามอยู่กับกลุ่มคนเหล่านี้ให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำงานร่วมกัน มันเป็นไปได้ยากที่จะหลีกเลี่ยงหรือไม่พบปะกัน เนื่องจากจะต้องมีการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ทางที่ดีก็คืออยู่กับคนเหล่านี้อย่างไร ให้ราบรื่น ให้ไม่เกิดปัญหา และสามารถทำงานร่วมกันได้ จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด 

การทำใน “สิ่งใหม่” ไม่ได้แย่เสมอไป แค่กำลังใจเราพร้อม

ในชีวิตของเราจะต้องได้ทำในสิ่งต่างๆมากมาย มีทั้งสิ่งเดิมๆที่เราเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว รวมไปถึงสิ่งใหม่ที่เป็นความท้าทายเข้ามาในชีวิต ที่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เราได้เริ่มต้นทำอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบในตอนแรก แต่ในสุดท้ายอาจจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้คุณพบเจอ กับโจทย์ชีวิตที่คุณตามหามานานแสนนานก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นการทำในสิ่งใหม่ๆไม่ได้แย่เสมอไป แล้ววันนี้เราได้นำเอาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การใช้ชีวิตร่วมกับคนทำงานที่มีทัศนคติแย่ๆ รวมไปถึงการดึงตัวเองออกจาก Comfort Zone เพื่อพบเจอกับสิ่งใหม่ๆที่คุณกำลังตามหา 


ขอแนะนำคาสิโนออนไลน์และแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด บริการ sa gaming ทดลองเล่น ฝากถอนรวดเร็ว 24 ชม. ด้วยระบบ ฝากถอนออโต้ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ที่ทันสมัยที่สุด มีผู้ใช้งานมากที่สุดในตอนนี้

Tag ที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save